ใกล้เข้ามาแล้วกับ ปรากฏการณ์ กุ้งเดินขบวน ณ จังหวัดอุบลราชธานี ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพียงแค่ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น โดยจะเปิดให้เข้าชมได้ภายในวันที่ 1 ถึง 30 กันยายน 2565 นี้ (23 ส.ค. 2565) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ประชาสัมพันธ์ถึงปรากฏการณ์ กุ้งเดินขบวน ที่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพียงแค่ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น โดยจะเกิดขึ้น ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าอุบลราชธานี แก่งลำดวน ที่ซึ่งจะเปิดให้สามารถเข้าชมได้ภายในวันที่ 1 ถึง 30 กันยายน 2565 นี้
โดย แก่งลำดวน นั้น ได้ตั้งอยู่ที่บ้านหนองขอน ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
ลักษณะของแก่งลำดวนเป็นแก่งหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีสายน้ำลำโดมใหญ่ไหลผ่าน แก่งหินที่กระจายไปทั่วอย่างสวยงามเหล่านี้เหมาะแก่การเที่ยวชมและพักผ่อนหย่อนใจยิ่งนัก ตามปกติแล้วแก่งลำดวนเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00 น.- 16.00 น. ของทุกวัน
นอกจากตัวพื้นที่แล้วนั้น แก่งลำดวนยังมีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจอยู่ซึ่งก็คือ ปรากฏการณ์กุ้งเดินขบวน ที่จะเกิดขึ้นปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ภายในช่วงเดือน กันยายนของทุกปี โดยปรากฏการณ์ดังกล่าวนั้น เป็นการเคลื่อนที่ของบรรดากุ้งจำนวนมากมายมหาศาลขึ้นบนพลาญหินบริเวณแก่งลำดวน เจ้ากุ้งตัวเล็กจำนวนมหาศาลนี้จะพากันเดินทวนกระแสน้ำของสายน้ำลำโดมใหญ่ ที่มักจะมีความเชี่ยวกรากในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายนของทุกปี
การเดินขึ้นมาบนบกเพื่อหลบหลีกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวของเหล่ากุ้งนั้น ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ และสวยงามตื่นตาเป็นอย่างยิ่ง โดยปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายในช่วงเวลากลางคืน และมักจะพบเห็นได้ยาก รวมถึงมีปัจจัยที่ไม่แน่นอน เนื่องจากการขึ้นมาของเหล่ากุ้งจะขึ้นอยู่กับบปัจจัยทางธรรมชาติ ฤดูกาล และปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาบริเวณต้นน้ำลำโดมใหญ่
หากปริมาณน้ำมากย่อมส่งผลให้กระแสน้ำแรง และเราจะพบเห็นกุ้งขึ้นมาหลบหนีเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าปริมาณน้ำน้อยย่อมส่งผลให้กระแสน้ำอ่อนลง ก็อาจจะส่งผลให้กุ้งไม่ลี้ภัยขึ้นมา จนไปถึงไม่ขึ้นมาเลย ทำให้ปรากฏการณ์ดังกล่าวถือว่าพบเห็นได้นากขึ้น และมีปัจจัยในการเกิดขึ้นจากธรรมชาติเป็นหลัก
จากการตรวจสอบศึกษาเพิ่มเติมแล้วนั้น ก็พบว่ากุ้งที่มาเดินขบวนที่แก่งลำดวนนั้นเป็นชนิดของ “กุ้งก้ามขน” และการอพยพขึ้นมานั้นก็เพื่อมุ่งหน้าสู่พื้นที่แหล่งต้นของสายน้ำลำโดมใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ก็ว่าได้
ในส่วนของการเปิดให้เข้าชม ปรากฏการณ์กุ้งเดินขบวนประจำปี 2565 จะเปิดให้ภายในวันที่ 1-30 กันยายน 2565 ระหว่างเวลา 18.00 – 22:00 น. ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า อุบลราชธานี โทรศัพท์ : 097-2123951,094-2874156 หรือ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าอุบลราชธานี ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
ทางด้านของขั้นตอนการเข้าชมปรากฏการณ์กุ้งเดินขบวนนั้น ทางศูนย์ศึกษาธรรมชาติได้ขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวทุกท่าน ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ ผู้เข้าชมเตรียมไฟฉาย ใส่แมสค์ ให้พร้อม ก่อนเข้าพื้นที่ตรวจวัดอุณหภูมิ/ล้างมือด้วยแอลกอฮอลล์ จากนั้นเข้าประจำจุดเพื่อรับฟังข้อมูลเบื้องต้นและข้อควรปฏิบัติในการเข้าชมกุ้งเดินขบวน ก่อนรับบัตรคิวเข้าชมกุ้งเดินขบวน และประจำจุดรอการเข้าชมกุ้งเดินขบวน จากนั้นเข้าชมกุ้งเดินขบวน (ช่องทางเข้า) และออกจากจุดชมกุ้งเดินขบวน (ช่องทางออก)
โดยทางหน่วยงานได้ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวทุกท่าน ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
ฮือฮา! Bugatti วิ่งในไทย รุ่นนี้มีแค่ 20 คันโลก พบเจ้าของดีกรีไม่ธรรมดา
ชาวเน็ตตาลุกหลัง มีรายงานว่าพบ Bugatti รุ่นหายากมีแค่ 20 คันวิ่ง ในไทย พบเจ้าของลูกนักการเมืองกัมพูชา สามีไฮโซสาวทายาทนักธุรกิจหมื่นล้าน กลายเป็นเรื่องฮือฮา หลังจากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Bew Phattarit ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเปิดเผยว่าได้เห็น Bugatti ในไทย โดยเป็นรุ่น Bugatti Chiron Sport 110 ANS ที่มีผลิตแค่ 20 คันบนโลก รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 110 ปี มีราคา 300 ล้านบาทวิ่งอยู่บนถนนในประเทศไทย
เจ้าของโพสต์ระบุว่า “Bugatti Chiron sport 110 ANS Limited Edition 1/20 ทั่วโลก เป็นบุญตามากที่ได้เห็นมาวิ่งในไทย ยอมรับว่าเกรงมาก55555” ขณะที่ผู้ใช้ TikTok ได้โพสต์คลิป Bugatti Chiron sport 110 ANS ที่ส่งเสียงเครื่องยนต์กระฮึ่ม
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของรถหรู Bugatti ที่วิ่งในไทยและมีจำนวนเพียงแค่ 20 คันในโลก นั้นเป็นของนักธุรกิจหนุ่มและเป็นบุตรชายนักการเมืองจากประเทศกัมพูชา โดยทะเบียนรถยนต์ไม่ใช่ทะเบียนไทย และ เจ้าของรถคนดังกล่าวยังมีภรรยาเป็นไฮโซสาวไทยทายาทนักธุรกิจหมื่นล้านด้วย
มาตรา 14 (1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป