หลังจากถูกวิจารณ์อย่างหนักล่าสุดทาง จังหวัดตัดสินใจถอด กาโตะ ออกจากการร่วมแสดง งานสินค้ากระตุ้นเศรฐกิจ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 3 มิ.ย. นี้แล้ว กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่งานสินค้ากระตุ้นเศรษฐกิจ อ.พระแสง ประจำปี จ.สุราษฎร์ธานี ได้ขึ้นป้าย ซึ่งมี นายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะขึ้นแสดงด้วย จนทำให้ชาวเน็ตได้ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดนั้น นาย สรุยทธ์ สุทัศนะจินดา ผู้สื่อข่าวชื่อดังได้โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊กเปิดเผยว่า กาโตะ นั้นถูกลบออกไปจากป้ายแล้ว และถูกแทนที่ด้วยศิลปินคนอื่นแทน
โดย นายอนันตชัย บุญประกอบ ตัวแทนชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า มีการเชิญ ‘อดีตพระกาโตะ’ มาร้องเพลงในงานจริง เป็นการเชิญหลังจากลาสิกขาแล้ว แต่พอมีกระแสดราม่า ก็มีการปรับปรุงแก้ไข โดยตัดรายชื่ออดีตพระกาโตะออกร้องเพลงงานประจำปีแล้ว เนื่องจากส่วนตัวมองว่า การให้อดีตพระกาโตะ ขึ้นมาร้องเพลงในงาน เป็นการให้โอกาสคนที่ทำผิด กลับมามีที่ยืนในสังคม ซึ่งก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
สำหรับป้ายดังกล่าวนั้นทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้โพสต์ลงทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยงานจะมีตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม ถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ซึ่งอดีตพระกาโตะนั้นมีกำหนดขึ้นแสดงในวันที่ 3 มิถุนายน
กาโตะ คืนเงิน 6 แสนที่เบิกไปให้สีกาตอง และ พระคนกลาง 3 คนเพื่อปิดข่าวแล้ว โดยมีพยานเซ็นรองรับ ด้านทนายเผยยังมีความผิดอยู่ดี แม้คืนเงินไปแล้ว จากกรณีที่ นายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะ ที่ตัดสินใจลาสิกขา หลังจากที่มีข่าวว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกา ทำให้ตัดสินใจลาสิกขา รวมถึงมีประเด็นที่ว่าตนได้ เบิกเงินวัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 600,000 บาท เพื่อปกปิดข่าวของตนเอง โดยแบ่งให้สีกาตอง 300,00 บาทและพระคนกลางอีก 3 คน
ล่าสุด นางพงศกร ได้ทำหนังสือบันทึกข้อความตกลงคืนเงิน และลงวันที่ไว้เมื่อวันที่ 4 พฤศภาคม โดยระบุว่า ตามที่อดีตพระกาโตะ ได้เบิกเงินวัดเพ็ญชาติไป เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาทนั้น จึงเป็นที่สนใจต่อสังคมเป็นอย่างมาก วันนี้กาโตะ นายพงศกร จันทร์แก้ว นำเงินมาคืนที่วัดมังคลาราม เป็นเงิน 600,000 บาท โดยมีพยานรับทราบ ลงชื่อพยาน ประกอบด้วยพระระดับเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล นายกอบต. และผู้ใหญ่บ้าน
นอกจากนี้ยังระบุแนบท้ายชื่อพยานด้วยว่า ผู้รับมอบหมายเงิน 600,000 บาท เพื่อนำเข้าธนาคารบัญชี วัดเพ็ญชาติ ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565
ขณะที่ นายธนาชัย เกตุโรจน์ ประธานชมรมทนายความเมืองคอน กล่าวว่า ถึงจะมีการคืนเงินที่เบิกไป 600,000 บาทแล้ว แต่ในทางกฎหมายถือว่าเป็นการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว การเอาไปใช้ส่วนตัว อาจจะโดนข้อหายักยอกทรัพย์ของวัดได้ โทษจำคุก 3 ปี แต่ถ้าเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการรักษาทรัพย์และยักยอกทรัพย์มีโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึง 400,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ยอมความไม่ได้
สุดเศร้า! โรงเรียนปิดข่าว ครูกระโดดตึก หลังถูกกดดันให้หานักเรียนใหม่
กลายเป็นเรื่องสุดร้อนในโลกออนไลน์ หลังเพจดังออกมาแฉว่า โรงเรียนปิดข่าว ครูกระโดดตึก หลังครูคนดังกล่าวหานักเรียนใหม่ไม่ได้ถึงเป้า
เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก เปิดเผยถึงเรื่องราวสุดเศร้าที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง หลังจากที่มีครูกระโดดตึกเสียชีวิต หลังจากที่เธอไม่สามารถหานักเรียนใหม่ถึงยอดที่ทางโรงเรียนตั้งเป้าเอาไว้ และถูกดดัน ต่อว่าจนทำให้เธออับอายอย่างหนัก อย่างไรก็ตามทางเพจระบุอีกด้วยว่าทางโรงเรียนนั้นได้กำชับห้ามไม่ให้เรื่องนี้หลุดออกไปเป็นอันขาด
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “อาจารย์คนนึงของโรงเรียนชื่อดังเมืองแปดริ้วเครียดหนักเพราะถูกบังคับให้หานักเรียนใหม่เข้ามาเรียนตามยอดที่ให้ไว้พอใกล้เปิดเทอมเมื่อเป้ายังไม่ถึง เลยถูกต่อว่าและเรียกไปด่าจนอับอายจึงทำให้เธอกดดันและคิดสั้น ดิ่งตึกของอาคารเรียนที่อยู่ตรงชั้น 5 ลงมาเสียชีวิต แม้เกิดเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ขึ้นในโรงเรียนก็ตามแต่ทุกอย่างกับถูกปิดมิดให้เป็นความลับพร้อมคำสั่งห้ามให้เรื่องนี้เล็ดลอดออกไปและยังกำชับให้ทุกคนบอกไปในทิศทางเดียวกันว่าสาเหตุมาจากความเครียดส่วนตัวเรื่องปัญหาหนี้สิน…
รายละเอียดเป็นยังไงฝากผู้สื่อข่าวตามให้ด้วยนะคะอย่าปล่อยให้การสูญเสียของบุคลากรทางการศึกษาคนนึงเงียบหายโดยไม่ได้รับความชอบธรรม” หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็ได้ออกมาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก วิพากษ์วิจารณ์ตัวโรงเรียน และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ครั้งนี้
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป